กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
หน้าแรก > กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
วัตถุประสงค์การจัดตั้งกองทุน | |
กองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เป็นหน่วยงานในกำกับของกองต่อต้านการค้ามนุษย์กระทรวงการพัฒนาสังคมและ ความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อดำเนินงานในการช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และให้การสนับสนุนงบประมาณในการ จัดทำโครงการด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเริ่มแรกในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยผลจากนโยบาย แห่งรัฐที่ให้ความสนใจและตระหนักในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ทำให้เกิดการประกาศใช้พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ซึ่งเจตนารมณ์สำคัญของกฎหมายดังกล่าวต้องการที่จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยมีความหมายรวมตั้งแต่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ การบังคับใช้แรงงานหรือบริการรวมถึงการป้องกันและปราบปรามองค์กรอาชญากรรม | |
เป้าประสงค์/เป้าหมาย | |
1. กลุ่มเป้าหมายมีศักยภาพในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 2. เครือข่ายมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนอย่างมีประสิทธิภาพ 3. องค์กรสมรรถนะสูง | |
วิสัยทัศน์ | |
“สังคมเข้มแข็งในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ภายในปี 2564″ | |
พันธกิจ | |
1. สนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 2. บูรณาการความร่วมมือภาคีเครือข่ายในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์อย่างยั่งยืน 3. ส่งเสริมสนับสนุนกระบวนการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ | |
ค่านิยม | |
“อุทิศตน อาสางาน เอื้ออาทร อำนวยประโยชน์สุข” | |
ผู้มีสิทธิขอรับการสนับสนุนจากกองทุน แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้ | |
1. ประเภทบุคคล > > ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ | |
2. ประเภทโครงการ >> สนับสนุนการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรเอกชน | |
3. เงินรางวัลและค่าตอบแทนในการนำจับและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ >> เงินรางวัลจ่ายให้แก่เจ้าพนักงานสืบสวน หรือจับกุม และพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาหรือจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ และค่าตอบแทนจ่ายให้แก่ผู้แจ้งความนำจับจนนำไปสู่การจับกุม ตัวผู้ต้องหา หรือจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ | |
การให้การสนับสนุนของกองทุน | |
1. ประเภทบุคคล ในกรณีดังต่อไปนี้ | |
– การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ – การคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ – การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในต่างประเทศให้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรหรือถิ่นที่อยู่ | |
► เกณฑ์ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ | |
♦ ค่าใช้จ่ายในการครองชีพ ไม่เกินวงเงินครั้งละ 3,000 บาท และจะช่วยได้ไม่เกิน 3 ครั้ง ต่อรายต่อปี ♦ ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำเป็นและเหมาะสมโดยอ้างอิงจากหลักฐานทางการแพทย์ ทั้งนี้ ให้รวมถึงค่าตรวจสุขภาพเพื่อนำไปขออนุญาตทำงาน (Work Permit) และค่าตรวจสุขภาพเพื่อคัดกรองโรคติดต่อ ก่อนเข้ารับการคุ้มครอง **ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าพาหนะ และค่าอาหารระหว่างติดต่อรักษาพยาบาล ให้จ่ายไม่เกินครั้งละ 2,000 บาท ♦ ค่าใช้จ่ายในการบำบัดฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจ ให้จ่ายเท่าที่จ่ายจริง ตามความจำเป็นและเหมาะสม โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางการแพทย์ ♦ ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติให้จ่ายในอัตราวันละไม่เกิน 300 บาท เป็นระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ♦ ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเป็นเครื่องอุปโภคบริโภค ไม่เกินวงเงินครั้งละ 3,000 บาทและช่วยเหลือไม่เกิน 3 ครั้ง ต่อรายต่อปี ♦ ค่าใช้จ่ายในการจัดหาที่พักตามความเหมาะสม ♦ ค่าใช้จ่ายในการศึกษาหรือฝึกอบรม ♦ ค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย หรือการดำเนินคดีเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และให้รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าที่พัก ค่าพาหนะและค่าอาหารในการไปให้การหรือเบิกความเป็นพยานในความผิดฐานค้ามนุษย์ ♦ ค่าใช้จ่ายในการส่งกลับไปยังประเทศเดิมหรือภูมิลำเนาของผู้เสียหายนั้น ♦ ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้เสียหายในต่างประเทศให้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรหรือถิ่นที่อยู่ ♦ ค่าใช้ในการส่งเสริมการมีงานทำสำหรับผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการอนุมัติค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการมีงานทำสำหรับผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ที่คณะกรรมการกำหนด ♦ ค่าใช้จ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานของผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ในหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด ♦ ค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือเป็นเงินทุนเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายกลับเข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ซ้ำ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด ♦ ค่าใช้จ่ายกรณีอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการอนุมัติเป็นการเฉพาะราย | |
2. ประเภทโครงการ สนันสนุนการดำเนินโครงการของหน่วยงานภาครัฐหรือองค์กรเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์โดยหน่วยงาน/องค์กร จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ | |
– หน่วยงานภาครัฐ เป็นหน่วยงานที่ดำเนินการตามวัตถุประสงค์หรือกิจกรรมเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ – องค์กรเอกชน เป็นองค์กรที่บุคคลรวมกันขึ้นและได้จดทะเบียนด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 | |
► ลักษณะโครงการที่จะได้รับการสนับสนุนจากกองทุนได้แก่โครงการลักษณะดังนี้ | |
กรณีเป็นหน่วยงานภาครัฐ ต้องเป็นโครงการที่ริเริ่มใหม่ (Initiative Program) หรือเป็นโครงการที่ไม่สามารถขอรับการสนับสนุนจากงบประมาณปกติได้ หรือได้รับแต่ไม่เพียงพอ กรณีเป็นองค์กรเอกชน ต้องเป็นโครงการที่มีการดำเนินงานมาแล้ว ซึ่งมีทุนอยู่บางส่วนหรือเป็นโครงการริเริ่มใหม่ ทั้งนี้ โครงการนั้นต้องไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากส่วนราชการหรือแหล่งทุนอื่น หรือได้รับแต่ไม่เพียงพอ ♦ โครงการที่ดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ทั้งในระดับบุคคล ครอบครัว และชุมชน ♦ โครงการพัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหาย ♦ โครงการที่ดำเนินงานทางกฎหมายและการปราบปราม ♦ โครงการฟื้นฟูเยียวยาและการคืนสู่สังคม ♦ โครงการจัดทำและพัฒนาระบบข้อมูล การติดตามและการประเมินผล ♦ โครงการพัฒนากลไกการบริหารงานและการจัดการในด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ♦ โครงการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ♦ โครงการที่มีวัตถุประสงค์และกระบวนการในการดำเนินงานชัดเจน มีผลต่อการแก้ไขปัญหาการ ช่วยเหลือ หรือการคุ้มครองสวัสดิภาพ ผู้เสียหายหรือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ♦ โครงการที่เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของบุคคล หรือหน่วยงาน หรือประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการช่วยเหลือ หรือการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย หรือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ♦ โครงการอื่นตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์กำหนด | |
**ทั้งนี้ลักษณะโครงการจะต้องมีวัตถุประสงค์และกระบวนการในการดำเนินงานชัดเจน มีผลต่อการแก้ไขปัญหาการช่วย เหลือหรือการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย หรือการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของ บุคคล หรือหน่วยงาน หรือประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการช่วยเหลือหรือการคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหาย หรือการ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ | |
3. เงินรางวัลและค่าตอบแทนในการนำจับและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ | |
► เงินแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้ ♦ เงินรางวัล จ่ายให้แก่เจ้าพนักงานสืบสวนหรือจับกุม และพนักงานสอบสวนผู้ต้องหา หรือจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ ♦ ค่าตอบแทน จ่ายให้แก่ผู้แจ้งความนำจับจนนำไปสู่การจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ | |
เกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลและค่าตอบแทน 3.1 คดีความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 ที่มีบทกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 52 หรือมาตรา 53 คดีหนึ่งไม่เกินส่วนละ 100,000 บาท 3.2 คดีความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 มาตรา 8 มาตรา 9 ที่มีบทกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม การค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 52 หรือมาตรา 53 หรือมาตรา 54 คดีหนึ่ง ไม่เกินส่วนละ 50,000 บาท 3.3 คดีความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับความผิดฐานค้ามนุษย์ที่มีบทกำหนดโทษตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 55 หรือมาตรา 56 คดีหนึ่งไม่เกินส่วนละ 30,000 บาท 3.4 ในกรณีที่มีการจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้ประกันตัวไปในชั้นพนักงานสอบสวนชั้นพนักงานอัยการ หรือในชั้นศาล แล้วหลบหนีไป ให้จ่ายเงินรางวัลและค่าตอบแทนแต่ละส่วนในอัตราไม่เกิน ร้อยละสามสิบของวงเงินประกันตัวผู้ต้องหา หรือจำเลยนั้น 3.5 การจ่ายเงินรางวัลและค่าตอบแทนตามประกาศ เรื่อง กำหนดวงเงินและรายการค่าใช้จ่ายเป็นเงินรางวัลและค่าตอบแทนในการนำจับและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์จากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จ่ายจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ | |
การยื่นขอรับการสนับสนุนของกองทุน | |
» ประเภทบุคคล ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์สามารถยื่นคำขอรับการช่วยเหลือตามแบบฟอร์มที่กำหนดไว้ – ในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นที่กองต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 3 อาคาร A ชั้น 7 – ในเขตภูมิภาค ยื่นที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนั้น ๆ | |
» ประเภทโครงการ หน่วยงานภาครัฐและองค์กรเอกชนสามารถยื่นขอรับการสนับสนุนตามแบบเสนอโครงการ โดยกรณีหน่วยงาน/องค์กรเอกชน ที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนที่ประสงค์จะดำเนินโครงการ – ในเขตกรุงเทพฯ ยื่นที่กองต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาคาร ซี.พี. ทาวเวอร์ 3 อาคาร A ชั้น 6 – ในส่วนภูมิภาค ยื่นที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เพื่อพิจารณาในเบื้องต้น ก่อนนำส่งสำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ | |
» เงินรางวัลและค่าตอบแทนในการนำจับและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ – ในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นที่กองต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ – ในส่วนภูมิภาค ยื่นที่ผู้ว่าราชการจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด – ข้าราชการทหาร ให้ยื่นต่อผู้บังคับการกรมหรือเทียบเท่าขึ้นไป |